“วังเวียง” แบบเอียงขึ้นไปบนฟ้า : )

สะบายดี !!

ทักทายแบบชาวลาวซะหน่อย แต่ วังเวียง ทริปนี้ช่างไม่เหมือนมาเที่ยวลาวเอาซะเลย อาจเป็นเพราะภาพลาวที่เคยมีในหัวมันไม่ใช่แบบนี้ ลาวดูไม่ใช่เมืองบ้านๆแบบที่คิดไว้ ลาวดูมีอะไรให้ทำเยอะเต็มไปหมด เยอะซะจนลืมภาพลาวแบบ Slowlife ในหัวไปหมดเกลี้ยง

และพิเศษกว่า Review ไหน ๆ ครั้งนี้เรามาพร้อม  Travel Tips เจ๋งๆ จาก TrevelLoka ที่จะช่วยให่เรื่องเที่ยวเป็นอะไรที่ง่ายขึ้นและถูกลง ในท้ายรีวิวด้วยนะ อ่านรีวิววังเวียงจบ ก็ไปกดจองตามรอยต่อแบบคุ้มค่า ไม่ยุ่งยากกันได้เลย ดีงามไปอีกถูกมะ ^^ ”วังเวียง” รูทนี้บอกได้คำเดียวว่ามันส์มาก  มีครบทุกอย่างที่อยากเจอ ทั้งสวย ทั้งแปลก ทั้งชิล ทั้งน่ากลัว ! ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ ได้ลองอะไรใหม่ๆที่ไม่คิดว่าจะทำได้ นับว่าเป็นอีกทริปที่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆกลับบ้านแบบเต็มกระเป๋า จนแทบรูดซิบไม่ได้เลย ใครอยากฟินแบบนี้ก็ตามมานะ

ถ้าชอบเที่ยวแบบไปไหนแล้วต้องเอาให้สุด เที่ยวแบบไฮโซไม่ Low cost บอกเลยว่ามาถูกที่แล้ว วังเวียงรีวิวนี้ไม่เหมือนใครแน่นอน เพราะไฮไลท์ทริปนี้เราจะพาไปขึ้นบอลลูน เที่ยวบนฟ้ากันด้วย

เหตุเกิดของทริปนี้ก็ไม่มีไรมาก  นอกจากมีความอยากไปเที่ยวใกล้ๆ ใช้เวลาไม่เยอะ และ”วังเวียง” ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ใช่สุดตอนนั้น  แบบขอซักครั้งซิ รีวิวเยอะเหลือเกินงี้ แต่ไม่นึกไม่ฝันเลย ว่าวังเวียงของเราทริปนี้ช่างแตกต่างจากที่อ่านๆมาว่าไปลาวนี่ถูกแสนถูก 555 แม้ตังค์จะไม่ค่อยเหลือ (หมดไปกะค่าบอลลูน)  แต่ความประทับใจนี่ขนกลับมาแบบเหลือเฟือเลยนะ ลืมรีวิวที่เคยอ่านกันมาได้เลยจ้ะ งบ 3000 นี่ได้ค่าขึ้นบอลลูนพอ

ไปทำอะไรที่วังเวียง  ?

– ไปเที่ยวบนฟ้า ขึ้นบอลลูน ดูพระอาทิตย์ตอนเช้า

– ไปนอนชิล ดูวิวสวยจากปลายที่นอน..

– ไปเอาเท้าจุ่มน้ำ จกส้มตำลาว

– ไป Tubing ลอยน้ำ เจอเพื่อนใหม่

– ไป blue lagoon โดดน้ำวัดใจ

– ไปขับ ATV มันส์ๆ ทักทายธรรมชาติระหว่างทาง

MY PLAN

DAY 1 : กทม-เวียงจันท์-วังเวียง-เข้าที่พัก / พักที่ Silver Naga Hotel

DAY 2 : เช่ามอไซค์- ไปบลูลากูน-เล่น Tubing / พักที่ Silver Naga Hotel

DAY 3 : ขึ้นบอลลูน – ขับ ATV – กลับเวียงจันทน์ / พักที่เวียงจันทน์

DAY 4 : เวียงจันทน์ – กทม

การเดินทาง

การเดินทางในวังเวียงนี่เราเช่ามอไซต์ขับรถเที่ยวเป็นหลักค่ะ ก็ไปได้ทั่วตามใจอยากเลย

ส่วนทางนี่ใช้กูเกิ้ลแมพบ้าง ถามคนลาวแถวนั้นดูบ้าง

คนลาวน่ารักค่ะ คุยง่าย พูดไทยเหมือนๆเรานี่แหละ สื่อสารกันสะดวกเลย

——————————-

Day 1 :: กทม–เวียงจันท์–วังเวียง–เข้าที่พัก

แพลนวันแรกก็เกือบหมดไปกับการเดินทางเลย จริงๆมาวังเวียงมาได้หลายวิธีนะ นั่งรถทัวร์มาก็ได้ แต่เราเป็นคนไม่ชอบนั่งรถนานๆ บวกกลับอยากประหยัดเวลาด้วย  มาคราวนี้เราเลยเลือกนั่งเครื่องไปลง เวียงจันทน์ก่อน แล้วหารถตู้ไปวังเวียงคต่อ ครั้งนี้บินกับลาวแอร์ไลน์ค่ะ  โอเคเลยนะ เครื่องใหม่ บริการก็ดี แต่ราคาตอนนั้นโหดอยู่พอสมควร เพราะไม่ได้แพลนไว้ จองใกล้ๆเลย ใครอยากจะบินมานี่ แนะนำให้จองก่อนนานๆก็ดีนะ โปรถูกๆมาลาวเยอะอยู่ อย่าทำตัวไม่ยอมวางแผนจองใกล้ๆแบบเรา เจ็บหนักมาก 555

ออกจากสนามบิน ทำเรื่องซื้อซิม แลกเงินอะไรให้เรียบร้อย ก็ไปหารถเข้าเมืองเลยค่ะ มีคนมารอกันเต็มไปหมด ตอนนั้นบอกเค้าว่าจะไปวังเวียง เค้าก็พาไปหารถขึ้นให้เรียบร้อยเลย คนลาวใจดี๊ดี สภาพรถตู้และถนนไปวังเวียง นี่มีความทรมานอยู่มากพอสมควร กว่าจะไปถึงนี่เกือบอัมพาต  ใครจะมาเตรียมใจกันด้วยนะ 555

นั่งรถมาประมาณ 2 ชม ก็ถึงวังเวียงโดยสวัสดิภาพ ความรู้สึกแรกที่สัมผัส คือบ้านเมืองเค้าดูเงียบๆดีนะ ธรรมชาติก็สวยดูอุดมสมบูรณ์ดี  ความน่ารักของที่นี่คือมองๆไปก็เจอบอลลูนลอยอยู่ใกล้ๆเสมอ ความประทับใจแรกคือให้ผ่านเลยค่ะ

มาถึงก็หาไปโรงแรมเชคอินทันทีค่ะ ที่พักของเราทริปนี้คือ ” Silver naga hotel” พิกัดอยู่ในเมืองเลย ติดริมแม่น้ำ ห้องพัก River view วิวสวยม๊าก เลือกมาที่นี่เพราะวิวจากห้องนี่แหละ

ในห้องพักค่ะ เรียบหรูดูดี

ถูกใจกับวิวหลักล้านนี้มาก ภูเขาแลดูมีมิติ

ส่วนกลางมีสระน้ำเล็กๆ (เล็กจริงๆ) บริการด้วยนะ

พักผ่อนซักพัก ตกเย็นก็ออกมาเดินเล่น หาของกินต่อ

มื้อเย็นวันนี้ ลงตัวที่ร้านส้มต้มบนแพริมน้ำ นั่งเอาเท้าแช่น้ำ จกส้มตำวนไปค่ะ พิกัดร้านนี้อยู่แถวตรงสะพานได้ริมน้ำในเมือง เดินมาจาก รร ได้เลย

รสชาติงั้นๆ แต่บรรยากาศใช่เลยอ่ะ

นอกจากกินวนไป เดินเล่นในเมืองแล้ว วันนี้ก็ไม่มีไรมาก กลับ รร พักผ่อนยาวๆ พุ่งนี้ต้องพร้อมลุย

——————————-

DAY 2 เช่ามอไซค์– ไปบลูลากูน–เล่น Tubing

วันนี้มีแพลนไปลุย 2 ที่หลักๆคือ Blue lagoon ช่วงสาย และไป Tubing ตอนบ่ายแก่ๆ ไงล่ะแพลนวันนี้สาย Adventure ไปอีกจ้า หลังจากทานข้าวเข้าที่ รร เสร็จ ก็ไปหาเช่ามอไซต์และจองทริปเล่น Tubbing ให้เรียบร้อย (ร้านในเมืองมีเยอะมาก เลือกเอาเลย ราคาพอๆกันค่ะ)

ได้พาหนะละ พร้อมลุย

ระหว่างทางไป บลูลากูน วิวสวย แต่ฝุ่นเยอะ หาผ้าปิดจมูกมาด้วยนะ

การเดินทางในวังเวียงนี่เปิดกูเกิ้ลเอาเลยนะ ไม่มีหลง หรือไม่ก็ถามทางจากคนแถวนั้นดูได้ คนลาวน่ารัก ใจดีทุกคน

ถึงแล้ว บลูลากูน สถานที่ยอดฮิตที่ใครๆก็พูดถึง น้ำใสดี แต่เล็กกว่าที่คิดไว้อีกนะ คำแรกที่เอ่ยคือหันไปถามเพื่อนว่า เห้ย มันมีข้างในอีกป่าว บ่อแค่เนี้ย !? 5555

เราว่าไฮไลท์ของที่นี่ มันไม่น่าใช่ธรรมชาติที่สวยงาม อลังการนะแต่มันคือ สถานที่ทีพบปะของนักเดินทางจากหลายๆมุมโลก ที่มารวมตัว พูดคุย เพื่อทำความรู้จักกันมากกว่า เราว่ามันดีมากเลยนะ แม้จะพูดกันก็คนละภาษา แต่ก็สื่อสารกันได้ด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ คือดีอ่ะ เป็นปลายทางที่ดูมีเสน่ห์มาก

และกิจกรรมที่ Must Do ที่สุดของการมาที่นี่ คือไปกระโดดน้ำนี่แหละ ใจแข็งๆหน่อย ก็ไปชั้นบนสุดเลย ไปถึงละไม่กล้าโดดก็ต้องโดดเพราะ  กองเชียร์เพียบจ้าเชียร์กันทั้งบ่อ 5555

จบจากโดดน้ำ Blue lagoon ก็หาไรกินแถวๆนั้นซักพัก บ่ายแก่ๆ ก็ไป Tubing ต่อเลยจ้า วันแห่งการ Adventure ของแท้ คอสตูมวันนี้คือต้องเตรียมมาลุยโดยเฉพาะเลยนะ เพราะจะเปียกและเลอะเทอะตั้งแต่เช้ายันเย็น

บางคนอาจจะยังงงว่า Tubing คืออะไร Tubing ที่ว่านี่คือ การนั่งห่วงยางลอยละล่องไปในแม่น้ำ ชมวิวรอบๆ ไปเรื่อยๆ ใช้เวลาเล่นประมาณ 2 ชม ต่อรอบ แนะนำให้มาลอยตอนเย็นๆหน่อย อากาศจะได้ไม่ร้อน

และประสบการณ์ดีๆของการมาเล่น tubing ครั้งนี้ คือการได้เจอเพื่อนใหม่ที่น่ารักและชอบอะไรเหมือนๆกัน  จากคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันก็มาเป็นเพื่อนกันได้ผ่านการเดินทางนี่แหละเนอะ :))

ความสนุกและท้าทายอย่างนึงในการเล่น Tubing คือการรักษารองเท้าให้อยู่ครบ 2 ข้างไปจนถึงฝั่ง ( ของเราไม่ต้องสืบหายไปตั้งแต่ต้นสาย)

กว่าจะล่องมาถึงฝั่งก็เกือบๆค่ำพอดี มาถึงสิ่งแรกก็ซื้อรองเท้าเลย 555 ต่อด้วยไปหามื้อเย็นกินในเมือง กลับ รร อาบน้ำ จบวันไปแบบเหนื่อยๆแต่ฟินมาก

——————————-

DAY 3 : ขึ้นบอลลูน – ขับ ATV – กลับเวียงจันทน์

และแล้วเราก็ได้พาทุกคนมาถึงวันท้ายของทริปที่วังเวียงที่เป็น Super highlight of this trip กันแล้วววว เพราะวันนี้เรามีแพลนไปขึ้นบอลลูนกัน

เราซื้อทัวร์ไปขึ้นบอลลูนมาตั้งแต่เมื่อวานค่ะ จุดที่ขายมีเยอะพอสมควรตามร้านในเมืองทั่วไปเลย เลือกได้ตามความถูกชะตาเพราะราคาไม่ต่างกัน ค่าขึ้นต่อคนอยู่ 3000 บาท มีให้เลือก 2 รอบคือเช้ากับเย็นค่ะ เราเลือกรอบเช้าเพราะอยากไปดูบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้น

รถของทัวร์ที่ซื้อมารับที่ รร ตั้งแต่เช้าเลยค่ะ ตรงเวลาเป๊ะ

ไม่กี่นาทีก็ไปถึงที่หมายที่เราจะไปขึ้นบอลลูนกัน เป็นลานกว้างๆ สำหรับปล่อยบอลลูนขึ้นโดยเฉพาะ

แวบแรกที่ก้าวขึ้นไปบนตระกร้ายักษ์ในบอลลูน นี่ก็เริ่มมีความกลัวมาแทรกแซง 555 ดูในรูปมันก็น่าขึ้นอะนะ พอขึ้นจริงๆนี่เอาละ ขาสั่นจ้า มันเริ่มสูงขึ้น มันเริ่มไม่กล้ามองลงข้างล่าง แต่ก็พยายามตั้งสติให้หายกลัวได้ นึกถึง 3000 บาทที่เสียไป ถุย ไม่ใช่ !  ตั้งสติให้หายกลัวนี่แหละ

สภาพแรกหลังขึ้น นั่งเข้ามุมอยู่ในตะกร้า

แต่ซักพักก็หายกลัวนะ เพราะถ้าลองมองไปรอบๆ แล้วเอนจอยกับวิวตรงนั้น มันก็ดีมากจริงๆแหละ บรรยากาศด้านบนมันชวนให้ฟินมาก สวยจนลืมพื้นดิน

พอไม่กลัว ผีช่างภาพก็เข้าสิงทันที ถ่ายวนไปเป็น 100 รูปเห็นจะได้

แสงสวยๆยามเช้ากับวิวมุมสูง…

ใน 1 บอลลูนนี่จะอยู่กันได้หลายคนเลยนะ ตอนนั้นที่ไปก็ ประมาณ 6-7 คนนี่แหละ

ตอนแรกนึกว่าขึ้นไปนี่จะหนาวเพราะมันสูง แต่จริงๆไม่ขนาดนั้นนะ หนักไปทางร้อนๆด้วยซ้ำเพราะเค้าจุดไฟในบอลลูนเพื่อให้ลอยค่ะ ใครจะมาขึ้นก็ไม่ต้องจัดคอสตูมหนามากนะ มันไม่หนาวค่ะ

ลอยละล่องเสมือนเป็นนางฟ้าที่ไปเดินเล่นบนปุยเมฆซักพัก ประมาณ 1 ชมก็ได้เวลาตกสรรค์กลับสู่พื้นดินแล้ว ยังไม่อยากลงเลย พอไม่กลัวแล้วการได้ไปอยู่ตรงนั้นมันรู้สึกดีมากจริงๆ

อยากบอกว่าการได้ลองอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยทำ แม้ว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีหรือไม่ก็ตาม มันคือดีเสมอ เพราะอย่างน้อยเราก็ได้ทำมันแล้ว จากนี้ไปมันก็จะเป็นครั้งที่สอง สาม สี่ ที่สวยงามแน่นอน เพราะเคยผ่านครั้งแรกแบบกล้าๆกลัวๆมาแล้วนี่แหละ

อย่างที่เค้าว่ากันว่า การจะเอาชนะความกลัวได้ คือ ลงมือทำทั้งๆที่กลัว 😀

แม้จะลงมาแล้ว ผีช่างภาพก็ยังไม่ออกจากร่าง ยังคงตามเก็บภาพตอนเค้าเก็บบอลลูนไปเรื่อยๆ แสงตอนเช้ามันดีจริงๆ

จบจากภารกิจพิชิตบอลลูน เราก็ไปลุยต่อกับการ ขับ ATV เล่น หาเช่าเอาจากในเมืองเช่นกัน คุ้มเลยทริปนี้ เที่ยวบนฟ้าเสร็จ ก็ไปลุยโคลนลุยน้ำต่อ

คนพร้อม รถพร้อม ผ้าปิดหน้ากันฝุ่นก็พร้อม !รออะไร ลุยสิคะ

ขับไปเรื่อยๆ ก็มีอันต้องจอดเพราะวิวข้างทาง มันดึงดูดมาก

ขับวนไปซักพัก ก็มาจบที่ รร ค่ะ ได้เวลาเชคเอ้าท์แล้ว วันนี้เราต้องบอกลาวังเวียง แล้วจริงๆหรอ……ใจหายใจคว่ำเล็กน้อย เพราะยังรู้สึกว่าดื่มด่ำกับเมืองนี้ไม่พอเลย ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะเต็มไปหมด สงสัยได้มาซ้ำอีกแน่นอน

ขากลับ ทริปเรานั่งรถทัวร์ไปลงที่เวียงจันทน์ เพื่อไปขึ้นเครื่องกลับ กทม ค่ะ ถึงเวียงจันทน์ช่วงค่ำๆ มีเวลาเดินเล่นสำรวจเมืองนิดหน่อย ก่อนบินไฟล์ทเช้าพุ่งนี้

บ้านเมืองดูทันสมัยมาก ร้านอาหาร คาเฟ่สวยๆ เต็มไปหมด ผิดกับวังเวียงเลยล่ะ

——————————-

อ่านมาจนถึงตรงนี้ เป็นยังไงบ้าง หลงรักลาว อยากมาเที่ยว วังเวียง กันแล้วหรือยัง ?

แม้ทริปนี้อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์คนอยากเที่ยวลาวแบบถูกๆแต่เราว่าเชื่อว่าถ้าได้ลองรูทนี้ซักครั้งในชีวิต มันก็คุ้มค่าอยู่นะ ประเทศเพื่อนบ้านเราใกล้ๆ นี่มีอะไรน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย สำหรับเราทริปนี้ ถือว่าเป็นการได้ประสบการณ์ใหม่ในการเที่ยวของแท้  รู้สึกประทับใจและรู้สึกมีความสุขกับการเดินทางครั้งนี้มาก กลับบ้านไปนี่มีเรื่องไปโม้ให้เพื่อนฟังอีกเยอะเลยล่ะ 😀

สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า ลาวที่เรารู้จัก เค้าน่ารักมากเลยนะ ไปรู้จักเค้ากันเถอะ!

——————————————–

Travel Tips

สำหรับวันนี้มี เทคนิคดีๆ ในการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักแบบไม่ปวดหัวมาฝากกันด้วยล่ะ ซึ่งก็คือบริการดีๆของ Traveloka ที่จัดมาให้ แบบสนองนี๊ตคนขี้เกียจหาอะไรหลายต่อแบบเรามาก นอกจากเป็นตัวกลางจัดแจงหาที่พัก หรือ ตั๋วเครืองบินแล้ว ในช่วง Promotion นี่ก็จะมี code ส่วนลดพิเศษถูกลงไปอีกต่างหากด้วยนะ ดีงามได้อีก  เอาล่ะเราไปดูความง่ายของการใช้บริการ Traveloka กันดีกว่าค่ะ !!

สำหรับทริปนี้เราเริ่มจากการที่จองตั๋วเครื่องบินก่อนเลย สำคัญสุด  Step แรก เข้าไปที่เวปก่อนเลยจ้า https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Vientiane-VTE/1

สมมุติว่า วันที่จะไปคือ  2 ธันวาคม กลับ 5 ธันวาคม เราก็เลือกเลยจ้ะ อย่างนึงที่ชอบการจองผ่านที่นี่ 1 อย่างก็คือ ในปฏิทินจองตั๋วก็จะ highlight สีแดงในวันที่เป็นวันหยุดของคนไทยอีกด้วย ดีงามป้ะล่ะ  ^^

เลือกจำนวนคนแล้วกด ค้นหาเที่ยวบินกันเลยย สุดท้ายจะมีเที่ยวบินแต่ละเที่ยว แต่ละสายการบิน พร้อมราคา มาให้เราเลือกแบบไม่ต้องกดไปหาที่ละเวปกันเลยทีเดียว

ยกตัวอย่างทริปนี้ ก็มาตกลงที่ Lao Airline  เพราะเวลาที่เหมาะมากๆ ออกเช้าถึงสายๆ ตรงกับแผนการเที่ยวของเราพอดีเป๊ะจากนั้น พอกดเลือกเข้าไป ทาง web ก็มี option smart combo ให้ด้วยอีกต่างหาก คือเลือกขาไปและกลับด้วยสายการบินเดียวกันลดราคาเที่ยวบินขาไปให้ด้วยงี้ แจ่มมากๆ

รออะไรฮะกด Smart combo สิงานนี้

ลดเพิ่มอีกที่นั่งละ 500 กว่าบาท ใครจะไม่เอาล่ะ จัดไป!

ราคาจาก 3419 เหลือ 2884 แล้ว กดเลือกแบบถูกสุดไปเลยงานนี้ มีการคำนวณเป็นต่อคนมาให้เรียบร้อย ราคานี้รวมสัมภาระแล้วด้วย 20 kg พร้อมทั้งอาหารอีกตะหาก แถมราคานี้ Net! แล้วด้วยไม่มีบวกเพิ่มละ จะได้ไม่เสียเวลากด cancel ทีหลัง ฮ่าๆ

โดยช่องทางการชำระเงินก็มีหลากหลายช่องทางมากๆ ใครสะดวกทางไหนก้อทางนั้นเลย

ส่วนวิธีในการเลือกโรงแรมของเราน่ะหรอ ก็ใช้เจ้า Traveloka อีกเหมือนกันยังไงน่ะหรอมาดูกัน ก็ไปที่หน้าแรกเหมือนเดิมแต่กดมาที่ tab จองโรงแรม แล้วกดหาเมืองที่คุณจะไป และวันที่อยากจะเข้าพัก

จากนั้นจะมีลิสของ โรงแรมที่วังเวียงขึ้นมา โดยปกติแล้วจะเรียงตามความนิยมของ นักท่องเที่ยวที่ให้คะแนนไว้นี่แหละค๊า ซึ่งคะแนนมาก็เอาคะแนนรีวิวมาจาก www.tripadvisor.com นั่นเอง ซึ่งก็เป็นเวปที่คนทั่วโลกใช้กันอะเนาะ คะแนนจึงค่อนข้างน่าเชื่อถือมากๆ  เวบเดียวอยู่เลย

ยกตัวอย่าง ตามทริปนี้ เราก็เลือก Silver Naka Hotel เลยค่ะ เลงมาแล้ว มาดูคะแนน  ประกอบกับรูปรีวิวจากทาง Tripadvisor แล้วดูโอเคก็จิ้มไปเลยจ้า

เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเรา ทางเวบก็มีฟังชั่นให้เลื่อนลงมาดู comment จากนักท่องเที่ยวที่เคยไปพักที่นี่มาด้วยนะ  ซึ่งก็คือ comment จาก tripadvisor นั่นแหละ แต่ความดีงามมันอยู่ที่ เค้าดึงมาให้เราอ่านตรงนี้เลย แถมแปลเป็นไทยมาให้อีกต่างหาก ดีมากๆ ไม่ต้องเข้าไปเวบอื่นเลยค่ะ

เป็นไงค่ะ สำหรับเคล็ดลับการเที่ยวที่เอามาฝากกัน  เราว่ามันประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว เพราะ Traveloka เค้าได้รวบรวมเอาข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อตั๋วเครื่องบินและโรงแรมมาให้เรียบร้อย โดยไม่ต้องเปิดหลายจอให้ปวดหัวกันแล้ว เรียกได้ว่า ทั้งช่วยให้ตัดสินใจง่าย ราคาดี บริการก็ครบวงจรสุดๆ ขาเที่ยวนี่ต้องมีไว้ใช้จริงๆ ช่วยได้เยอะมาก เพื่อนๆ ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ แจ่มมากๆ แนะนำเลย