Topas Ecolodge : สวรรค์อยู่ไม่ไกล ‘เวียดนาม’ ใกล้ๆ นี่เอง
Hello from เวียดนาม จร้า !!! ใช่แล้วจ่ะ ‘เวียดนาม’ นี่แหละ อ่านไม่ผิด
หากยุโรปมีสวิสเซอแลนด์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้านเราก็มี Topas Ecolodge ที่ Sa Pa นี่แหละที่เราว่าบรรยากาศพอฟัดพอเหวี่ยงกันได้ เผลอๆชนะด้วยเพราะถูกกว่ามาก 5555
[embedyt] https://youtu.be/JTb1RJ-8gHY[/embedyt]
ใครอยากไปฟินใกล้ๆ ไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกล จ่ายค่าที่พักหลักพันแต่ได้วิวหลักหลายสิบล้านแบบนี้ นี่ต้องเก็บไว้เป็น wish list เลย เป็นรีสอร์ทใช้คำว่าสวยได้เปลืองมากกกก ถ้าบอกว่านี่อยู่สวรรค์ก็เชื่อ !!
วันนี้เรามี review บอกลายแทงทางไปปลายทางในฝัน แบบเอื้อมถึงมาฝากกันด้วย ใครอยากตามรอยก็ปักหมุดตามมาโลด
My Plan : 5 D 4 N [ 12-16 April 2018 ]
-
Day 1 : กทม – ฮานอย – ขึ้นรถไฟนอนไป ซาปา
-
Day 2 : Topas Ecolodge
-
Day 3 : Topas Ecolodge – ซาปา
-
Day 4 : ซาปา – ขึ้นรถไฟนอนกลับมาฮานอย
-
Day 5 : ฮานอย – กทม
Good to know :
- เราจองโรงแรมผ่าน Booking.com แต่เนิ่นๆ เลยเพราะโรงแรมจองยากมาก ข้อดีคือใช้แค่เครดิตแต่ยังไม่เสียเงิน จ่ายเงินที่โรงแรมเลย
- ไปเวียดนามส่วนมากคนกลัวโดนโกงกัน หากจะมาแบบเซฟๆ แนะนำให้จองพวกขนส่งทุกอย่างผ่าน agent ไปเลยค่ะ ส่วนการเดินทางในเมืองฮานอย เราว่าใช้พวกรถเมล์หรือรถสาธารณะก็สะดวกดีอยู่ ไม่แพงด้วย
- มาเที่ยวหน้านี้ เจอทั้งฝนทั้งหมอก เราว่าหา items ที่พาไปลุยได้ทุกที่อย่างกระเป๋ากันน้ำดีๆ ซักอันติดตัวไว้หน่อยก็ไม่เลวนะ เราไปสอยของ anello รุ่น CAMO มา ลายทหารเก๋ๆ สวยด้วยและลุยได้ด้วยคล่องตัวสุดๆ
Flight
ทริปนี้เราบิน Vietjet Air จ้าเพิ่งเคยลองสายการบินนี่ครั้
Train To Sapa
เราเลือกรถไฟแบบนอนมา ออกตอนกลางคืนพอดี ได้พักเต็มๆ ไม่ต้องจ่ายค่า รร ประหยัดไปในตัวด้วย
NOTE : เราจองรถไฟของ CHAPA EXPRESS มาค่ะ จองผ่านเวบนี้เลย WWW.HANOISAPATRAIN.COM ผ่าน AGENT ชื่อ BLUE DRAGONเอา ราคา ไป-กลับ อยู่ที่ 2700 บาทต่อคน เป็นห้องแบบแชร์กัน 4 เตียงนะ
พิกัดที่รับตั๋วและขึ้นรถไฟ ::HTTPS://GOO.GL/MAPS/VVQDTSP4GG92
หากใครกังวลเรื่องอาบน้ำ ขาไปจากฮานอย ใกล้ๆสถานีรถไฟมี รร ชื่อ Mango hotel เค้ามีบริการให้อาบน้ำนะ สะอาดอยู่ มีผ้าเช็ดตัวให้ จ่ายคนละ 60000 VND (84 บาท) ค่าฝากกระเป๋า 50000 VND (70 บาท) ส่วนขากลับจากซาปานี่สบายเลย มี louge ของ Chapa express ให้พักชิลๆมีที่อาบน้ำฟรีให้ด้วยล่ะ ถ้าจองเจ้าอื่นมานี่ไม่มีนะ ^^
The Way To Heaven
อย่างที่บอก ข้อดีของการจองรถไฟผ่าน agent อย่างนึงคือ ไม่ต้องกลัวโดนหลอกค่ะ เพราะเวียดนามนี่ขึ้นชื่อเรื่องโดนโกงมาก กลัว 555 แถมมีบริการรถตู้มารับ-ส่งจากสถานีรถไฟไป’ซาปา’ด้วยสะดวกสบายดี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ต้องจองก่อนนะ
พอรถไฟมาถึงที่ Lao cai ( lao cai เป็นจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของเมือง ซาปา) รถตู้ที่จองไว้ก็มารับไปซาปาค่ะ ส่งถึงออฟฟิสของ Topas Ecologe เลยวิธีการนัดแนะคือเราคุยกันผ่านทาง Chat ของ Booking.com นะเค้ามีเวลามารับ รอบ 8.00(มาพร้อมคนงานชาวเขา) , 12.00 และช่วง 15.00(มั้ง)
ทางไปสวรรค์ยังไม่จบง่ายๆ เราต้องรอรถตู้ของโรงแรมจากในเมืองไปที่รีสอร์ทกันต่อ ใช้เวลาประมาณ 1 ชมครึ่ง ทางไปโหดมาก ถนนลูกรังไปอีก ใครเมารถนี่เตรียมถุงมาเลยจ่ะ
Finally, Topas Ecolodge We’re here !
และแล้วเวลาประมาณเกือบสิบนาฬิกา เราก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ แม้อยากจะอ้วกมากก็ตาม 555
Wellcome drink จ้ะ
แผนที่ที่ รีสอร์ทค่ะ ทำดีอ่ะ น่ารักและน่าพักไปอีก ส่วนห้องเราเบอร์ 212 อยู่ตรงริมเขาโน่น
บรรยากาศแรกที่มาถึงคือ มีความใจแป้วเล็กน้อย เพราะหมอกลงหนามาก มองไม่เห็นความสวยงามใดๆเลยจร้า ไหนคะ วิวทิวเขา และทุ่งนา ตามภาพถ่าย อยากจะล้องไห้ แต่เราต้องอยู่แบบมีความหวั
และแล้ว ณ ช่วงเวลาบ่าย 2 แดดก็เริ่มมาทักทาย หมอกเริ่มหาย เราก็เลยรีบพุ่งไปสระว่ายน้ำ และนี่คือภาพแรกที่เห็นตรงหน้า.
มีใครให้ที่ไหนฟินกว่านี้มั้ยคะ ส่วนตัวแล้วไม่เห็นเคย infinite pool วิวปังขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายเถอะ
พอฟ้าเริ่มเปิด ก็เหมือนทางไปสวรรค์ก็เริ่มเบิ
ห้องอาหารค่ะ มีให้เลือกนั่งทั้งแบบ indoor และ out door ถ้านั่งกินข้าวด้านนอกนี่อิ่มวิ
วิวรอบๆรีสอร์ท ค่ะ สวยหมดจด ครบเครื่องมากจริมๆ
สปาจ้ะ น้อยแต่มากของแท้ อยู่บนสุดของรีสอร์ทเลย วิวอลังสุด แอบเสียดายเล็กๆที่ไม่ได้มานวด
ในห้องพักบ้าง ในห้องก็ไม่ได้แต่งสวยเท่าไหร่
พอตกเย็นหน่อย บรรยากาศก็เข้าใกล้ความเป็
มื้อเย็นกันบ้าง ทานที่รีสอร์ทนี่แหละ เราจะไม่ออกไปไหนทั้งนั้นนะทริ
เราว่าข้อดีของการมาพักที่นี่คื
และแน่นอนค่ะ เราก็ไม่พลาดรีบตื่นเช้าเพื่
ได้เวลามื้อเช้าที่รอคอยค่ะ ห้องอาหารคุมโทนแบบ minimalist ดูดีมาก ส่วนอาหารก็มีหลายอย่างให้เลื
เวลาของความฟิน ใกล้จะหมดลงแล้ว เพราะต้องเชคเอาท์ไปเที่ยวในเมื
Sapa City
ตัดภาพมาที่ตัวเมืองซาปา เมืองที่เค้าว่าเป็นที่สุดของขุนเขา และสายหมอก ที่อากาศดีตลอดทั้งปี
คืนนี้มาพักที่ Phuong Nam Hotel ค่ะ อยู่ในตัวเมืองเลย ห้องสวย สะอาดดี วิวตรงหน้าก็พีคอยู่ แต่เรามานี่หมอกลงรัวๆ เห็นแบบเลือนลางมาก 555
แพลนวันนี้ ก็แปลงร่างเป็นเด็กแว๊นเลยจ้า เช่ามอไซด์ขับเที่ยวน่าจะดีที่
วิวระหว่างทาง คือตายไปเลยจัา ขอยกให้เป็นเมืองแห่งนาขั้นบั
ถึงแล้วล่ะ ร้านกาแฟสวย ประจำ Ta Fan ร้านนี้ชื่อ Dao Coffee เจ้าค่ะ
กาแฟ อร่อยมากด้วยนะ ต้องลองจริงๆ
เสพวิวทุ่งนากันต่อ งามยิ่งนัก อากาศดีสดชื่นไปอีกคร๊า
เที่ยวในตัวเมืองดูบ้าง ตกเย็นหมอกเริ่มบางลง ความสวยงามในเมืองก็มีให้เห็
ตัดภาพมาที่ night life กับ ถนนคนเดินค่ะ จัดว่าเป็นตลาดที่
เดินมาเรื่อยๆ มาตามเสียง เหมือนมีคอนเสิร์ต แต่ป่าวจ้า คนที่นี่เค้าเปิดเพลงแดนซ์กั
ส่วนมื้อเย็นวันนี้ ขอลาอาหารเวียดนามข่ะ มีแต่ผักง่ะ ไม่หร่อยเลย ต้องชีสเยิ้มๆ แบบนี้สิคะ ขอบคุณร้าน La Roma Pizza ที่ช่วยชีวิต 555
เสน่ห์อีกอย่างของเมืองนี้ เราว่าคือเด็กน้อยในชุดชาวเขานี้
Bye Bye Sapa
วันสุดท้าย ก่อนบอกลาซาปากลับฮานอย ตื่นมาในหมอกและฝน ไม่เห็นอะไรเลย สงสัยซาปาอยากไล่เราแล้ว
หมอกลงฝนกตกแบบนี้ นับเป็นนิมิตรหมายอันดีแห่
Cong Caphe
เค้าว่าเวียดนามเป็นเมื
Hot pot salmon @ Viet Emotion
ต่อกันด้วย “หม้อไฟแซลม่อน” เมนูห้ามพลาดที่ ซาปา !! ใครมาถึงนี่แล้วไม่ลองกิ
น้ำซุปมีความเจ้มจ้น รสชาติกลมกล่อมไปด้วยสารพัดเครื่
เลยจ่ะ ราคาต่อชุดอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท
Home Calling
จบการกิน ก็ถึงเวลาต้องลาซาปาแล้ว ^^ ขากลับก็นั่งรถไฟนอนกลั
แพลนวันสุดท้ายไม่มีอะไรมากมาย นอกจากกลับบ้านแต่หัววัน เพราะถึงสนามบินแต่เช้าตรู่ คงต้องบอกลาทริปนี้จริงๆแล้วว ยังไม่ค่อยอยากกลับเลย ^^
5 วันผ่านไปอย่างไวเลย ทริปสงกรานต์ปีนี้ที่เวียดนามถื
สรุปค่าเสียหาย
-
ค่ารถไฟ(มีรถไปส่งที่ Sapa ฟรี) = 5400
-
ค่าที่พัก
-
Topas Ecolodge(มีรถมารับที่ Sapa) = 6100
-
Phuong nam hotel = 1200
-
ค่าอาบน้ำที่ Mango Hotel = 160 บาท
-
ค่าฝากกระเป๋าที่ Mango Hotel = 70 บาท
-
ค่าเช่า มอเตอร์ไซที่ Sapa ครึ่งวัน = 90 บาท
Total = 13,020 = 6,510 บาทต่อคน (ไม่รวมค่าตั๋วและค่ากิน)
Post a Comment
You must be logged in to post a comment.