[Road Trip] น่าน-พะเยา : เรา 2 คน กับ รถ 1 คัน : )

A : อยากไปเที่ยวเหนืออ่ะ อากาศเย็นละ ไปไหนดี

B : “น่าน” ม๊ะ? ยังไม่เคยไปเลย

A : เอาดิๆ ขับรถไปนะ อยากไปเรื่อย ๆ 😀

B :  จาก กทม เลย ? โห ไกลนะ ไหวหรอ ?

A : ไหวสิ แกขับไง เดี่ยวชั้นหลับ  5555

B : …………..

ส่วนมากทุกทริปที่สำเร็จ มักเกิดมาจากบทสนทนาสั้นๆ และสมองที่ไม่ค่อยได้คิดไรมาก

เพราะถ้าคิดเยอะนี่สุดท้ายจะไม่ค่อยได้ไป เป็นเหมือนกันป้ะ ? 5555

ทริปนี้ก็เหมือนกัน คุยกันง่ายๆ มีแค่ความอยากเป็นที่ตั้ง

จากนั้นก็ปักวัน เติมน้ำมัน เก็บกระเป๋า แล้วก็ลุยโลด !!

ข้อดีของการ Road trip นี่ นอกจากจะไปเรื่อยๆสบายๆแล้ว แพลนยังจบง่ายด้วยนะ

เพราะไม่ต้องหาตั๋วเครื่องบินใหวุ่นวาย ส่วนมากทริปจะล่มเพราะค่าตั๋วนี่แหละ

ถ้าชอบอะไรแบบนี้เหมือนกันก็ตามมานะ รับรองว่าอ่านแล้วจะหลงรัก ‘น่าน’ จนไม่อยากจะกลับบ้านเหมือนเรา

MY PLAN  :: 6 วัน 5 คืน

 

• Day 1 : เลิกงาน – ออกจาก กทม – อุตรดิตถ์ [ พักที่ รร B-cozy อ.เมืองอุตรดิตถ์]
• Day 2 : เขื่อนสิริกิตต์ – ท่าเรือปากนาย – ดอยเสมอดาว [ พักที่ ดอยเสมอดาว กางเต๊นท์ ]
• Day 3 : ดอยเสมอดาว – ตัวเมืองน่าน [ พักที่ น่าน เดอะ ปันนา ]
• Day 4 : ภูลังกา จ.พะเยา [ พักที่ ภูลังกา รีสอร์ท ]
• Day 5 : Magic Mountain ภูลังกา – อ.ปัว น่าน [ พักที่ ตูบนา โฮมเสตย์ ]
• Day 6 : น่าน-กทม

 

ไปทำอะไร ?

• ไป.. นอนกางเต๊นท์ ชมดาว ดูทะเลหมอก ที่ ดอยเสมอดาว
• ไป… ลองเส้นทางใหม่ เอารถล่องแพร ข้ามแม่น้ำไปน่าน
• ไป.. ขับรถเรื่อยๆ ขึ้นเขา  รับลมหนาว 
• ไป.. แวะถ่ายรูป ชมวิว ระหว่างทาง
• ไป.. นอนชิลริมน้ำ กลางหมอกจางๆ 
• ไป.. นอนที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน
• ไป.. ดูหมอกฟุ้งๆ ที่ Magic Mountain ที่ภูลังกา
• ไป .. นอนแช่จากุชชี่ Outdoor ท้าลมหนาว
• ไป.. นอนกลางทุ่งนา ขับ ATV เล่น ที่ ปัว
• ไป.. จิบกาแฟเมืองน่าน ที่อร่อยแทบทุกร้าน
• ไป.. เจอคนเมืองน่าน ที่น่าฮัก และใจดีมาก กันทุกคน  :))

 

 

การเดินทาง

       สำหรับทริปนี้ ใช้บริการ Google Map  โลด ไม่หลงเลยเวิคมากๆ

ส่วน ปลายทางแต่ละที่ ก็เรียงลำดับตามตัวเลขในแผนที่เลย

เติมน้ำมันแล้วตามกันมาได้เลยนะ

 

Day 1 : เลิกงาน – ออกจาก กทม – อุตรดิตถ์

วันแรกเล่าแบบไวๆ นะ เพราะไม่มีอะไรมาก

นอกจาก 5 โมงเด้งเลิกงานก็รีบลุกอย่างไว

แล้วก็ขับรถออกจาก กทม ไม่รู้เรียกซิ่งหรือป่าว

ประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ก็ถึงอุตรดิตถ์ละ

แพลนวันนี้มีแค่เข้าที่พัก  นอนเอาแรง แล้วพรุ่งนี้เช้าไปต่อ แบบแรงเหลือๆ

Day 2 : เขื่อนสิริกิตต์ – ท่าเรือปากนาย – ดอยเสมอดาว

 

ไหนๆก็ผ่านมาทางอุตรดิตถ์แล้ว ไม่แวะเขื่อนนี่เดี๋ยวจะว่าไม่มาถึง

วันนี้ช่วงเช้า เราแวะกินกาแฟเบาๆ แล้วสายๆก็ไปต่อที่เขื่อนสิริกิตต์ค่ะ

…..

ร้านกาแฟ The Forest สวนป่าคาเฟ่  ค่ะ มาแบบฟลุคๆ ทางผ่านพอดี

ร้านสวยร่มรืนมาก กาแฟอร่อยด้วย

มาต่อที่ เขื่อน สิริกิตต์ ค่ะ

ได้ยินชื่อเขื่อนนี้ตอนเรียนสังคมบ่อยๆ ได้มาเจอตัวจริงก็วันนี้แหละนะ

แวะถ่ายรูปซักแปป ช่วงเที่ยงๆ เราก็ออกเดินทางไปน่านต่อค่ะ

แต่ไปน่านครั้งนี้ ไม่ได้ขับรถไปปกติเหมือนชาวบ้านเค้านะ

เอารถลงแพข้ามน้ำไปจ้า ธรรมดาซะที่ไหน 5555

ขับรถมาจาก กทม ทั้งทีเอาลงแพไม้ซะเลย (ทำใจเอารถลงน้ำอยุ่ 3 วิ)

สาเหตุที่มาทางนี้ ก็ไม่มีไรมาก นอกจากอยากลองเส้นทางใหม่ๆ

และประหยัดเวลา เพราะถ้าจะไปดอยเสมอดาวเลย มาทางนี้เร็วกว่าขับรถไปด้วยนะ

ทางไปลงแพ อยู่ที่ท่าเรือ ปากนาย อ. น้ำปาด ค่ะ กูเกิ้ลแมพไปโลด ไม่หลงแน่นอน

แพที่เอาลงเป็นแพไม้ รอบนึงไปได้ 2 คัน ราคาคันละ 250 บาทค่ะ
จากตรงนี้ข้ามไปน่าน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

วิวนอกเล้นทาง สวยไม่แพ้ระหว่างทางเลยล่ะ

ใครกำลังแพลนมาน่าน  มาลองทางนี้ก็เวิคอยู่นะ ไม่จมแน่นอน เราลอยมาแล้ว

ถึงฝั่งปุ๊ป ก็ขับไปต่อที่ดอยเสมอดาวเลย วันนี้เราจะไปกางเต็นท์นอนดูดาวกัน

ถึงแล้ว ดอยเสมอดาว มาทันพระอาทิตย์ตกยามเย็นพอดีเลย

ดอยเสมอดาว นี่เสมอดาวสมชื่อจริงๆ เลยล่ะ ไม่แปลกใจเลยใจทำไมคนถึงอยากมาที่นี่กันนัก

Day 3 : ดอยเสมอดาว – ตัวเมืองน่าน

 

เริ่มเช้าวันนี้ ด้วยการตื่นเช้ามาก เพราะหมายมั่นปั้นมือไว้ว่าจะไปดูทะเลหมอก

เชื่อมั้ยว่าขึ้นเขา ขึ้นดอยมาก็หลายที่แต่ไม่เคยเห็นทะเลจังๆเลยซักครั้ง

ครั้งนี้ถ้าไม่เห็นอีกนี่ว่าจะเลิกดูหมอกละ 5555

….

และแล้วดอยเสมอดาวก็ไม่ทำให้ผิดหวััง การตื่นตี 4 มาตาก ลมหนาวรอดูหมอก ช่างคุ้มค่า…

ภาพตรงหน้า คือ ทะเลดาว เคียงคู่ ทะเลหมอก คือมันดีมากกกกกกกกก

ได้เห็นทะเลหมอกชัดๆซักทีชีวิตนี้ มันอลังการแบบนี้เอง

ไม่แปลกใจเลยที่ คนจะมารอดูมากมายกันตั้งแต่ตี 4 ตี 5

เชื่อมั้ยว่า ตี  5 คนก็มาจองที่กันเต็มละ มาช้านี่อดเลย

ทะเลหมอกยามเช้า…กับพระอาทิตย์ขึ้น…

ตายไปเลยวิวนี้ ยืนสงบนิ่งดูวิวอยู่ 3 นาที

หลังจากดูทะเลหมอกเสร็จ เราก็เดินรอบๆซักพัก

ถ่ายรูปไปเรื่อย บรรยยากาศข้างบนนี้มันช่างดี

มื้อเช้าเบาๆบนดอย กับ ไข่กะทะ และ ขนมปังเนยนม

ไม่รู้ว่าหิวหรืออะไร  รู้สึกอร๊อยอร่อย

ช่วงสายๆ ลงจากดอย ก็ขับต่อยาวๆ ไปในตัวเมืองน่านค่ะ

ทางไป..หมอกหนามาก ขับรถฝ่าทะลุหมอกกันเลย อากาศดีสุดๆ

สำหรับที่พักในน่านวันนี้ เราจองที่ น่าน เดอะ ปันนา มาค่ะ รีสอร์ทอยู่ริมแม่น้ำน่าน ออกจากตัวเมืองมาไม่ไกลมากนัก

มีความประทับใจตั้งแต่ไปถึงเลย เจ้าของน่ารัก เป็นกันเอง ดูแลกันดีสุดๆ แถมบรรยากาศที่รีสอร์ทน่ารักมาก

ช่วงเช้าจะปกคลุมไปด้วยหมอกบางๆ  ตกแต่งแบบเหนือๆ วิวแม่น้ำ ห้องพักสะอาด สรุปคือชอบอีกแล้วล่ะ

จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่ คือ ห้องสปาค่ะ ทำดีมาก ไปนวดมาด้วยแหละ สบายสุด ๆ

ที่รีสอร์ทมีจากุชชี่ด้วยนะ งงไปเลย ตอนแรกเข้ามาไม่เห็นเพราะเค้าเอาผ้าคลุมไว้

ซักพักนางไปเปิดให้ดู โห มีของดีแบบนี้อยู่ที่นี่ด้วยหรอ เข้าใจคิดมากๆ เราเลยต้องไปใช้บริการซะหน่อย

หนาวๆงี้ลงแช่น้ำ นวดไปเพลินๆ มันฟินมากอ่ะ

พระเอกของที่นี่เค้าล่ะ ชื่อ น้องมีทรัพย์ หมาอะไรก็ไม่รู้ลงเล่นน้ำทั้งวัน แถมน่ารักเป็นบ้า 

 

มาเดินเล่นในตัวเมืองน่านกันบ้างดีกว่า ไม่ได้ไปเข้าวัดเข้าวา ตามใครเค้าเลย

CheckPoint วันนี้ คือร้านกาแฟเด็ด ที่มาเมืองน่านแล้วต้องลอง

……..

ร้านที่ว่านี่ชื่อ “สุดกองดี” ค่ะ ร้านอยู่ในตัวเมืองเลย หาไม่ยาก

ทีเด็ดคือกาแฟสดที่อร่อยมาก ไม่รู้ไปคั่วกันมาจากไหน ติดใจแล้วเนี่ย จะมาใหม่ก็ไกลเหลือเกิน

ตกเย็นก็มาแวะเดินเล่นถนนคนเดินต่อ จะว่าไปนี่ก็ไม่ได้ตลาดแบบบ้านๆงี้มานานแล้วนะ

เสน่ห์ของเมืองน่านนี่นอกจากธรรมชาติสวยๆแล้ว ก็ความดั้งเดิมที่ไม่ถูกปรุงแต่งมากนี่แหละ

เราเดินเล่นหาของกินอยู่ซักพัก ค่ำๆก็กลับไปรีสอร์ทค่ะ  วันนี้มีแพลนกิน ฺBBQ กัน

……..

บรรยากาศ ถนนคนเดิน เมืองน่าน

 

Day 4 : ภูลังกา จ.พะเยา

 

มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปกันแล้ว ตั้งแต่คิดว่าจะมา “น่าน”

อีกหนึ่งปลายทางที่คิดว่าอยากไปเยือนมากๆ ก็ที่ “ภูลังกา พะเยา” นี่แหละ

ไหนๆก็ขึ้นเหนือมาแล้วเนาะ แวะไปแอ่วพะเยาซักคืนดีกว่า

เห็นรีวิว ร้านกาแฟ Magic Mountain แล้วมันกะตุ้นต่อมอยากมากๆ

เราออกจากเมืองน่านช่วงสายๆค่ะ ตามคุณกู้เกิ้ลแมพ เค้ารายงานมาว่าขับไปชิว 2 ชม ก็น่าจะถึงที่หมาย

……

ระหว่างทางไปภูลังกา มีความมึนเพราะหลายโค้งนัก ใครเมารถ แนะนำให้พกยาดม ยาลม ยาหอม มาด้วยนะ

แต่ทางโหดๆมักมาคู่กับวิวสวยๆเสมอ แวะข้างทาง จอดลงไปถ่ายมาเลย วิวสวยมาก

ฝ่ามาไม่รู้กี่ร้อยโค้ง ในที่สุดก็ถึงรีสอร์ทซักที วันนี้เราพักที่ ภูลังกา รีสอร์ท ค่ะ

ขอยกให้เป็นรีสอร์ทหลักร้อย วิวหลักล้านอีกที่เลย วิวดีมาก

ห้องพักทุกห้อง วิวสวย หันหน้าหาภูเขาเกือบทั้งหมดเลย

มีหลายห้องด้วยนะ มากันเยอะๆ ก็น่าจะได้อยู่ ถือว่าเป็นรีสอร์ทที่ควรค่าแก่การมาอีกที่

 …..

วิวจากห้องเราค่ะ

ภายในห้องพักค่ะ ไม่มีแอร์นะ หลังนี้ 700 บาทถ้วน รวมอาอาหารเช้า

แต่เราว่าดีกว่าที่คิดอีกไว้นะ สะอาดด้วย ห้องน้ำโอเค น้ำอุ่นเปิดได้(รอดละ) มานอนในมุ้งก็อินไปอีกแบบนะ

แพลนวันนี้ นี่อยู่ที่รีสอร์ทยาว ๆ นั่งเล่น ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นทริปแห่งการพักผ่อนจริงๆ

ส่วนมื้อเย็นก็ทานที่นี่เลยค่ะ มีอาหารขายพร้อม คืนนี้ต้องรีบเข้านอนไวๆ เพราะพรุ่งนี้มีนัดดูทะเลหมอกอีกแล้ว 😀

Day 5 : Magic Mountain ภูลังกา – อ.ปัว น่าน

 

วันนี้ก็ตื่นเช้าเป็นประวัติการณ์ตามเคย ตื่นมาด้วยความหวังเล็กๆ ว่าพี่หมอกคงจะตามตามนัด

เช้านี้เราเลือกไปดูหมอกที่ร้านกาแฟเล็กๆ แต่วิวไม่เล็ก ที่ร้าน Magic Mountain ค่ะ

ร้านอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทมากนัก เดินไปนิดเดียวก็ถึงละ

ที่เลือกมาดูหมอกที่นี่ แทนที่จะอยู่รีสอร์ทเพราะว่า วิวจากที่ร้านจะเปิดกว้างกว่า

ไม่มีอะไรบัง จากการคำนวณตามหลักฟิสิกแล้ว คิดว่าน่าจะปังกว่าแน่นอน ฮ่าๆ

และแล้วพี่หมอกก็ไม่หักหลัง มาตามนัดเลย แต่เหมือนดูยังไม่ตื่นเต็มที่นะ ดูไม่แน่นหนา แต่แค่นี้ก็สวยมากๆแล้วหละ

บรรยากาศยามเช้า ที่  Magic Mountain อากาศดีมากกกกก

คนไม่เยอะด้วย อยากไปนั่งตรงไหนก็ตามใจฉันได้เลย

หลงรักการมาเที่ยวแบบไม่ต้องแย่งใครแบบนี้

มาร้านกาแฟแล้ว ไม่จิบกาแฟคงไม่ได้ เจ้าของร้านคงมองค้อนรัวๆ

เลยจัดมาซักแก้ว นอกจากร้านสวยแล้ว กาแฟยังอร่อยด้วยล่ะ คาปูชิโน่ฟองนุ่มมาก

นั่งชิลที่นี่จนถึงสายๆเลย รับแสงอุ่นยามเช้า ดูหมอกขยับตัวกระทบแดดไปเรื่อยๆ คือ ดีต่อใจมาก

เวลาตอนนั้นมันดีมากจริงๆ เป็นการใช้ชิวิตช้าๆของแท้

….สมองโล่งๆ ในหัวไม่มีความคิดใดๆ…..

วิวด้านหน้ามีแค่ภูเขาและหมอก อากาศเย็นๆ  จิบกาแฟวนไปยาวๆ

ไม่ต้องนึกภาพตาม เราถ่ายมาให้ดูแล้ว   ใครจะอิจฉาขอให้หยุดไว้ตรงนี้ 555

เจอ เพื่อนใหม่ด้วยแหละ จากที่คุยกันมา เค้าชื่อน้องมารุหับมารวย

ขอชักภาพมาไว้เป็นที่ระทึกหน่อยนะ หล่อมากๆ บอกอะไรก็ทำตาม เป็นคนนี่จะจีบเลย

เรากลับจาก Magic Mountain ช่วงสายๆ แล้วมาทานข้าวเช้าที่รีสอร์ทค่ะ

ถ่ายรูปเล่นซักพักจากนั้นก็เชคเอาท์ออก เพื่อไปที่หมายถัดไป

จุดหมายจองเราวันนี้ คือที่ที่อยากมาที่สุดอีกที่ คือ อ. ปัว จ. น่าน ค่ะ

ขับรถลงเขา เปิดหน้าต่าง รับลมเย็นๆ เชยชมวิวข้างทางไปตลอดทาง

มา Road Trip มันดีแบบนี้นี่เอง

จาก ภูลังกา ขับรถมาประมานไม่ถึง 2 ชม ก็ถึง ปัว แล้วค่ะ ไม่ไกลเลย

จะว่าไปแล้ว ถัดจาก ปาย ก็ ปัว นี่แหละ เมืองอะไรไมรู้น่ารักเป็นบ้าเลยนะ

ขับไปทางไหนก็บรรยากาศดี เห็นภูเขารอบๆ ตลอด

เริ่มหิวแล้ว เที่ยงนี้มาฝากท้อง ที่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ค่ะ

ร้านนี้อ่านรีวิวเค้าว่าเด็ดมากๆ เลยต้องมาลองซะหน่อยแล้ว

เมนูที่สั่งก็คงไม่พ้นเห็ดๆนะ ชื่อก็บอกแล้วว่าฟาร์มเห็ด

เลยจัดมาเต็มๆ  ทั้ง พิซซ่าเห็ดหอม ซุปเห็ด ยำเห็ด สารพัดเลยงานนี้

แต่ขอบอกว่าอร่อย และรู้สึกว่ามันสดมากๆ โดยเฉพาะ พิซซ่าหน้าเห็ด นี่ สุดๆอ่ะ

อร่อยจริงๆ มา ปัวแล้วขอให้แวะ ไม่ผิดหวังค่ะ

 …..

หน้าตาอาหารเมนูเห็ดของเราวันนี้

อิ่มของคาวแล้ว ก็มาต่อกาแฟร้าน ที่ไม่มาถือว่าไม่ถึง ปัว อีกที่ ที่ ร้านกาแฟบ้านไทลื๊อ ค่ะ

ร้านกาแฟไทลื๊อ ถือว่าเป็น Checkpoint อีกทีในปัว ที่ Must Go มากๆ

ตัวร้านจะเป็นทุ่งกว้างๆ โอบล้อมไปด้วยภูเขา  มีศาลาไม้ ให้นั่งชิล นอนชิลเป็นจุดๆ

สั่งกาแฟเสร็จ อยากจะไปนอนศาลาไหน ก็เลือกเอาตามสบายเลย ชิลมั้ยล่ะ

อยากบอกว่า สิ่งที่ประทับใจมากๆ ที่ น่าน

ที่สุดอย่างนึง นี่คือ …รสชาติกาแฟ.. เลยนะ

ไม่ว่าจะไปว่ากิน ข้างทางถูกๆ ร้านเล็กๆ หรือ ร้านใหญ่ๆ

กาแฟอร่อยหมด งงเหมือนกัน  ว่าเค้ามีสูตรลับอะไรกันรึเปล่า

( ถ้ามีก็ขอให้แอบมาบอกกันบ้าง )

เพราะปกติแล้ว หายากมากนะ ที่จะไปเที่ยวไหน

แล้วเจอร้านกาแฟอร่อยทุกร้านแบบบนี้

ไม่รู้ว่าคั่วแบบไหน มีเคล็ดลับอะไรกันยังไง

แต่ขอบอกมันดีต่อใจคนติดกาแฟอย่างเรามากจริงๆ

ใครมี กาแฟเป็นปัจจัยที่ 5 แบบเรา นี่มา น่าน แล้วหลงรักแน่นอนค่ะ คอนเฟิร์ม

นับจากนี้ไป เราขอยกให้ น่าน เป็นเมืองแห่งกาแฟอร่อย ไปเลย

นอกจากกาแฟที่นี่จะเด็ดแล้ว ก็บรรยากาศในร้านบ้านไทลื้อนี่แหละ

มันสุดยอดมาก เข้าขั้นชิลระดับ 10 เลยให้ตายเหอะ

การได้นั่งกินกาแฟ บนแคร่ไม้บ้านๆ มีหมอน มีที่นอน กับวิวตรงหน้า แบบนี้ มันดีมาก

 

ขอสารภาพว่า แอบงีบหลับตรงนี้ไปหลายรอบเหมือนกัน

จบภารกิจ นั่งชิล กินกาแฟ แล้วบ่ายแก่ๆ เราก็มาเข้าที่พัก ที่ ตูบนา โฮมสเตย์ ค่ะ

บรรยากาศน่ารักอีกแล้ว ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอเลย ชอบมาก

เป็นโฮมสเตย์บ้านๆ ที่ถูกสร้างไว้กลางทุ่งนา ได้ลงตัว และน่าอยู่สุดๆ

วันไหนเบื่อๆ นี่แทบอยากจะเปิดวาบ หายตัวมาเลย

แม้ที่นี่เป็นโฮมเสตย์เล็กๆ มีแค่  4 ห้อง ที่ดูแลกันเองในครอบครัว

 แต่การบริการ ความสะอาด รวมไปถึงวิวของที่พักที่มองไปทางไหนก็มีแต่ ภูเขาและทุ่งนา

นี่คือ เกินราคามาก  นับว่าเป็นปิดท้ายทริปนี้ได้อย่างสวยงามจริงๆ

 วิวแต่ละห้องก็วิวต่างกันออกไป วิวดีสุดคือ ห้อง “ชมวิว” ค่ะ ใกล้ทุ่งนาเลย มีดาดฟ้าให้นอนดูดาวด้วย

บรรยากาศรอบๆ  ที่ ตูบนา ค่ะ ใครไม่หลงรักก็บ้าแล้วเนอะ

มาหน้าหนาวยังสวยขนาดนี้  ถ้ามาหน้าฝนเจอทุ่งนาเขียวๆ นี่จะดีขนาดไหน  สงสัยคงได้มาซ้ำ

กิจกรรมยามเย็น คูลๆชิคๆที่รีสอร์ทเค้ามีให ขับ ATV เล่นรอบทุ่งนาด้วนะ

ขับเล่นไปเพลิ่นๆ ดูบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ฟินวนไปอีก

มื้อเย็นก็ไม่ต้องไปไหน ที่นี่เค้ามีขันโตก ชุดใหญ่มาเสริฟให้พร้อมเลย

(ค่าอาหารเย็นรวมอยู่กับค่าที่พักเรียบร้อยแล้ว)

กินยังไงให้หมดดี คืออิ่มมาก อร่อยมากทุกสิ่งอย่าง ผักสดและหวานได้อีก

เค้าปลูกยังไงเนี่ย คนไม่กินผักอย่างเรา ชอบกินผักเพราะที่ น่าน นี่แหละ

คืนสุดท้าย…กับการพักผ่อนนอนเอาแรงยาวๆ เตรียมตัวขับรถกลับ กทม พรุ่งนี้

DAY 6 : น่าน – กทม

บรรยากาศสวยๆ ที่ตูบนายามเช้า ที่มีหมอกคลุมไปทั่ว

แค่คิดว่าวันนี้ต้องกลับบ้านแล้ว เพลงพี่สิงโต นำโชค ก็ปรากฎขึ้นมาในหัวทันที

อยู่ต่อเลยได้มั้ย…. อย่าพึ่งปล่อยให้ตัวชั้นไป….. 

ข้ามต้มเห็ดหอม มื้อเช้า ไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่กินไป 3 ถ้วยเห็นจะได้ …. 😛

แพลน วันสุดท้ายคงไม่เล่าแล้วนะ เพราะมีแต่ขับรถกลับบ้านค่ะ 5555

ออกจากน่านสายๆ ถึง กทม ก็เกือบๆ 2 ทุ่ม

ใช้เวลาขับรถกลับประมาณ 8 ชม ได้ ไป เรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุด 555

นับว่าเป็นการ Roadtrip ที่คุ้มค่าและได้ชาจแบทกลับบ้านเต็มกระเป๋าเลยล่ะ

แต่อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบขับรถหน่อยนะ เพราะก็ไกลเอาเรื่องอยู่

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว  เป็นยังไงบ้างคะ หลงรักรูท น่าน-พะเยากันแล้วรึยัง ?

ส่วนตัวเราแล้ว Road trip รูท “น่าน-พะเยา ” ครั้งนี้มันดีต่อใจมากจริงๆ

หลงรักเสน่ห์เมืองน่าน และธรรมชาติปังๆที่ภูลังกา เข้าอย่างจัง

เมืองอะไรก็ไม่รู้ น่ารักไปทุกส่วน ระหว่างทางก็สวย

ปลายทางแต่ละที่ก็ชิลซะจนอยากจะย้ายสำมะโนครัวไปให้รู้แล้วรู้รอด

ยิ่งขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ แบบนี้ยิ่งเพิ่มระดับฟินไปอีกหลายเท่า

หนาวนี้ใครยังไม่มีแพลนไปไหน ลองดูซักครั้งนะคะ

เราไกด์ให้หมดละ ขาดแค่เติมน้ำมัน กับเงินในกระเป๋าเท่านั้นแหละ อันนี้ช่วยไม่ได้ จริงๆ 5555

สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ มาให้ด้วย อันนี้คิดแค่ค่าที่พัก 5  คืน และ ค่าน้ำมัน

ตกคนละประมาณ 5,000 บาท ค่ะ

ที่เหลือก็แล้วแต่ละว่าจะกินอะไร จะตามรอยเราหมดทุกที่ก็ไม่ว่ากันนะ อิอิ

สอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย TAT Call Center 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือ www.tourismthailand.org ค่าาา

ไปก่อนนะคะ ใครสงสัยอยากถามอะไรเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้เลย

FB : www.facebook.com/nononobuthere

บ๊ายบาย ค่า